วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สูตรทำวาฟเฟิล

สูตรทำวาฟเฟิล










ขนมรังผึ้งหรือวาฟเฟิล (waffle) 7 สูตร

ขนมรังผึ้ง

ส่วนผสม
แป้งถั่วเหลือง 2+1/2 ถ้วย
นมถั่วเหลือง 1 ถ้วย
น้ำมันถั่วเหลือง 1/2 ถ้วย
ไข่แดงตีพอแตก(ขนาดกลาง) 5 ฟอง
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 1/2 ช้อนชา
วานิลลา 2 ช้อนชา
ไข่ขาว(ขนาดกลาง) 5 ฟอง
น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี 3/4 ถ้วย

วิธีทำ
1.ผสมแป้งถั่วเหลือง นมถั่วเหลืองและเกลือ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
แล้วค่อยๆเทน้ำมันผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใส่ไข่แดงเคล้าผสมให้ทั่ว อย่าให้แป้งเป็นเม็ด

2. ตีไข่ขาวให้ขึ้นฟูแข็ง ค่อยๆโรยน้ำตาลทีละน้อยจนหมด
3. เทส่วนผสมในข้อที่ 1 ลงในส่วนผสมข้อที่ 2 ใช้พายคนไปทางเดียวกันเบาๆ ให้เข้ากัน
ใส่วานิลลา คนอีกครั้ง

4. ตักหยอดใส่พิมพ์ขนมรังผึ้ง(ใช้พิมพ์รังผึ้งไฟฟ้าจะดีที่สุด ถ้าไม่มีพิมพ์ก็ใช้หยอดบนกะทะแบนที่ทาน้ำมัน
ทำเช่นเดียวกับแพนเค้กหรือถ้ามีเตาอบก็ใส่ถ้วยอบ หรือใช้อบพิมพ์ขนมไข่ ก็ได้เช่นกัน)




ขนมรังผึ้งหรือ Waffle

ใครที่กำลังมองหาสูตรขนมเด๊ดๆ ที่ทำขายได้ ก็ขนมวอฟเฟิลนี่หล่ะค่ะ ทำง่ายขายคล่อง ลงทุนก็น้อย
แถมดัดแปลงสูตรเฉพาะได้หลากหลาย ทำรับประทานกันเองที่บ้านก็สนุกสนานดีค่ะ

ส่วนผสม
แป้งเค้กตราพัดโปก 2 ถ้วยตวง
ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
เนยสดละลาย 1/2 ถ้วย
ไข่แดง 2 ฟอง
นมข้นจืด 2/3 ถ้วย
น้ำหอมกลิ่นวานิลา 1/2 ช้อนชา
ไข่ขาว 2 ฟอง

วิธีทำ
1. ร่อนแป้งตราพัดโบก กับผงฟูเข้าด้วยกัน เทน้ำตาลทรายลงผสมเข้าด้วยกันในอ่างผสม
2. ทำแป้งเป็นบ่อตรงกลาง เติมเนยละลาย ไข่แดง นมข้มจืด น้ำ และกลิ่นวานิลาลงไป
3. ใช้ตะกร้อมือคนจนทั่วให้ส่วนผสมเข้ากันดี แล้วพักไว้
4. ใช้เครื่องผสมอาหารขนาด 5 ลิตร ตีไข่ขาวด้วยหัวตีรูปตะกร้อ
ตีโดยใช้ความเร็วสูง หรือเกียร์3 จนกระทั่งไข่ขาวตั้งยอดแข็ง
5. เทส่วนผสมของไข่แดงลงในไข่ขาว คนตะล่อมให้ส่วนผสมเข้ากัน
6. เทลงบนแม่พิมพ์ของเตาทำขนมวาฟเฟิลที่เปิดเครื่องไว้แล้วที่ไฟปานกลาง
อบจนกระทั่งไม่มีไอน้ำระเหยออกมา และขนมเหลืองสุกทั้งสองด้าน

TIP
คุณสามารถดัดแปลง โดยการใส่ลูกเกด หรือข้าวโพดหรืออื่นๆ ตามชอบ ลงในขนมวาฟเฟิลได้
โดยการโรยลงบนขนมหลังจากเทส่วนผวมลงในแม่พิมพ ์แล้วจึงค่อยปิดเตา




ขนมรังผึ้ง

ส่วนผสม
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ
ผงฟู1/4 ช้อนชา
ยีสต์ 1/4 ช้อนชา
ไข่ไก่ 4 ฟอง
น้ำสะอาด 6 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1.ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งสาลี ผงฟู ยีสต์ น้ำตาลทราย เทใส่ในชาม คนให้เข้ากัน
2.จากนั้น เทน้ำใส่ลงไป เสร็จแล้วก็นวดให้ส่วนผสมแป้งเข้ากันกับน้ำ
3.ตอกไข่ใส่ชามแล้วตีให้ไข่แตก เสร็จแล้วเทไข่ที่ตีไว้ใส่ลงในชามแป้ง แล้วก็คนให้ส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
4.ปิดฝาหมักทิ้งไว้อย่างน้อย ๑ ชั่วโมง
5.เสร็จแล้วก็เอามาหยอดใส่พิมพ์ได้ โดยใช้ไฟปานกลาง




วาฟเฟิลเนยสดราดซอสเลมอน

ส่วนผสม
แป้งสาลีเอนกประสงค์ 250 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 100 กรัม
เกลือ 4 ช้อนชา
ไข่ 4 ฟอง
นมสด 250 กรัม
เนยสดเค็มละลาย 150 กรัม

วิธีทำ
1. ผสมแป้ง น้ำตาล ผงฟู เกลือ คนให้เข้ากัน
2. ใส่ไข่ลงไป คนให้เข้ากัน
3. ส่นมและเนยละลาย คนให้เข้ากัน
4. ตั้งพิมพ์วาฟเฟิลให้ร้อน ทาเนยให้ทั่ว หยอดส่วนผสมวาฟเฟิล ลงไปในพิมพ์ ทิ้งไว้จนสุก นำขึ้นมาพักไว้


ส่วนผสมซอสเลมอน
น้ำมะนาวเหลือง (ประมาณ 1 ผล) 50 กรัม
น้ำตาล 70 กรัม
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 200 กรัม

วิธีทำ
คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ตั้งไฟคนจนข้น ยกลง ทิ้งไว้ให้เย็นเมื่อได้ซอสเลมอน
นำไปราดวาฟเฟิลให้ทั่ว รับประทานทันที

อร่อยดี ที่เชียงใหม่ ร้าน Eat Me โทร. 053-895-599
โดย มูลนิธิโครงการหลวง




วาฟเฟิลผลไม้ตุ๋นน้ำเชื่อม

ส่วนผสมผลไม้ตุ๋น :
ผลไม้สดตามต้องการ 200 กรัม
น้ำตาลทรายลิน 2 ถ้วย
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
เกลือ 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ เครื่องปรุงผลไม้ตุ๋น :
1. นำหม้อใส่ผลไม้ น้ำตาล เกลือ น้ำเปล่าลงไปต้มให้เดือด และลดไฟลงไปตุ๋นให้ผลไม้สุก น้ำเชื่อมเหนียวขึ้น
2. ปิดไฟ ใช้ราดวาฟเฟิล

ส่วนผสม:
แป้งแพนเค้กตราอิมพีเรียล 400 กรัม
นมสด 190 กรัม
เนยละลาย 1/2 ถ้วย
ไข่ไก่ 2-3 ฟอง
น้ำตาลทรายลิน 1/4 ถ้วย

วิธีทำ:
1. นำส่วนผสมทั้งหมดเทลงในชามผสม ตีให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
เมื่อส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันแล้วทิ้งไว้ 5 นาที
2. อุ่นเครื่องทำวาฟเฟิลไว้ให้ร้อน ตักส่วนผสมแป้งใส่ลงบนเครื่องทำวาฟเฟิลปิดฝาอบจนแป้งสุก
3. ตักวาฟเฟิลที่สุกแล้วออกวางลงบนจาน ตักผลไม้ตุ๋นราดลงไปบนวาฟเฟิล ยกเสริ์ฟทันที




Belgium waffle

เวลาเตรียม 60 นาที เวลาปรุง 30 นาที สูตรนี้พิเศษที่ผิวนอกกรอบหอม แป้งในนุ่มหยุ่นคล้ายขนมปังเนยสด
หอมหวานน้ำผึ้งกำลังดี รับรองว่า วาฟเฟิลสูตรนี้อร่อยไม่แพ้ร้านไหนๆ แน่นอน

ส่วนผสม (16 ที่)
แป้งสาลีสำหรับทำขนมปัง 1 ถ้วย
แป้งสาลีสำหรับทำเค้ก 1+1/2 ถ้วย
น้ำตาลทรายขาว 3 ช้อนโต๊ะ
ยีสต์ผง 1 ช้อนโต๊ะพูน
นมผง 2 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ 2 ฟอง
นมสดชนิดจืดอุ่น 2 ช้อนโต๊ะ
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้งอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ
กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา
เนยสดชนิดจืด 3/4 ถ้วย
น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี 2 ช้อนโต๊ะ
ช็อกโกแลตชิป 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่นเล็กน้อย

วิธีทำ
1. ใส่แป้งสาลีทั้งสองชนิด น้ำตาลทราย ยีสต์และนมผง ลงในอ่างผสม พักไว้
2. ผสมเกลือป่น ไข่ไก่ นมสด โยเกิร์ต น้ำผึ้งและวานิลาให้เข้ากัน แล้วเทใส่ส่วนผสมแป้ง
นวดให้เข้ากันนานประมาณ 5 นาที

3. ใส่เนยแล้วนวดต่ออีกประมาณ 5นาที จนก้อนโดเหนียวนุ่ม
จากนั้นพักโดไว้ให้ขึ้นเป็นสองเท่านาน 20 นาที

4. นำโดที่พักได้ที่แล้ว มานวดไล่อากาศและเติมน้ำตาลทรายไม่ฟอกสีและช็อกโกแลตชิป นวดให้เข้ากัน
แล้วแบ่งโดเป็นก้อนๆละ 40 กรัม ปั้นเป็นก้อนกลมพักไว้ให้ขึ้นอีก 30 นาที

5. เปิดเครื่องทำวาฟเฟิลไว้ให้ร้อน ทาเนยบางๆ วางก้อนโดที่ขึ้นดีแล้วลงตรงกลาง ปิดฝา
อบประมาณ 1–2 นาที (แล้วแต่รุ่นและความร้อนของเครื่องทำวาฟเฟิล)เสิร์ฟร้อนๆกับผลไม้และวานิลาซอส

ส่วนผสมวานิลาซอส
ไข่แดง 2 ฟอง
นมสดชนิดจืด 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
เนยสดชนิดจืด 1 ช้อนโต๊ะ
กลิ่นวานิลา 2 ช้อนชา

วิธีทำ
ใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงในหม้อ ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากันดี
นำไปตั้งไฟอ่อนๆ หมั่นคนจนกระทั่งซอสเดือดและข้นขึ้น ปิดไฟและพักไว้ให้เย็น




‘วาฟเฟิลโยเกิร์ต’ ทำเงินได้ ‘หลายสไตล์’

“ขนมเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่มีการพลิกแพลงไปเรื่อย ๆ อย่าง “วาฟเฟิลโยเกิร์ต” ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
ที่แปลกใหม่และกำลังเป็นที่นิยม วันนี้ทีมงาน “ช่องทางทำกิน” จะพาไปรู้จักเจ้าขนมทำเงินตัวนี้...

นงคราญ ธาระรูป ผู้ขาย “วาฟเฟิลโยเกิร์ต” เล่าว่า คลุกคลีกอยู่กับอาชีพค้าขายมานานแล้ว
เริ่มจากเปิดร้านขายเสื้อผ้าบูติก และต่อมาได้ขยับขยายเปิดร้านขายและให้เช่าวิดีโอ ซึ่งตอนนั้นเป็นที่นิยมกันมาก
จนเมื่อปี 2540 ธุรกิจประสบภาวะวิกฤติเศรษฐกิจฟองสบู่แตก ก็เลยเลิกกิจการไป แต่ก่อนหน้านั้นก็ได้ไปเรียน
ทำขนมประเภทเครป,วาฟเฟิล และได้ทำขายเป็นอาชีพเสริมอยู่แล้ว ก็มีรายได้จากส่วนนี้พอสมควร

ธุรกิจหลักได้ยุติไปกับเศรษฐกิจที่พลิกผัน แต่ยังมีธุรกิจค้าขายแบบพอเพียงอยู่ จึงทำให้ไม่เดือดร้อนมากนัก
และต่อมาเจ้าธุรกิจเล็ก ๆ นี้ก็ได้กลายเป็นธุรกิจสายเลือดหลักที่หล่อเลี้ยงครอบครัวมาจนบัดนี้

“เราไม่มีร้านค้าประจำ เพราะต้องหาทำเลที่ดีมาก ๆ และต้องไม่ขายแค่ขนมเพียงอย่างเดียว
อาจจะต้องมีเครื่องดื่มร้อน-เย็นขายควบคู่ไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องยากมากในสมัยนี้ในการหาทำเลทอง
ดังนั้น จึงอาศัยไปขายตามงานแสดงสินค้าใหญ่ ๆ”

นงคราญบอกว่า จากวาฟเฟิลแผ่นธรรมดา ๆ ก็ได้คิดพัฒนารูปแบบและรสชาติของขนมให้ทันสมัยไปตามกาลเวลา
เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับขนมที่ขาย ซึ่งปัจจุบันวาฟเฟิลโยเกิร์ตของร้านนี้ก็มีทั้ง..วาฟเฟิลแบบแผ่น,
วาฟเฟิลโดและวาฟเฟิลฮอทดอก ซึ่งตัววาฟเฟิลแบบแผ่นนั้นจะโรยหน้าด้วยเม็ดข้าวโพดดิบ,เม็ดมะม่วงหิมพานต์,
ลูกเกด ส่วนวาฟเฟิลแผ่นช็อกโกแลตจะโรยหน้าด้วยเม็ดช็อกโกแลตชิพ

มาดูกันว่าเจ้าขนมวาฟเฟิลโยเกิร์ตนี้มีวิธีการทำอย่างไร ?
เริ่มที่อุปกรณ์ ก็มีเครื่องตีแป้ง,ตะกร้อตีแป้ง,เตาอบวาฟเฟิล (แบบกลม และแบบสี่เหลี่ยม)
ราคาเครื่องละประมาณ 3,000 บาท,เตาอบวาฟเฟิลฮอทดอก ราคาเครื่องละ 7,000 บาท
ซึ่งเจ้าเตาอบนี้ต้องสั่งทำ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์กระจุกกระจิกอย่างเช่น ที่คีบขนม,ที่ตักขนม,ที่ทาเนย,แปรง

วัตถุดิบที่ใช้ทำก็มี แป้งสาลี,ไข่ไก่,เนยสด (เนยเทียมก็ได้),น้ำตาลทราย,เม็ดน้ำตาล,เกลือ,นมสด,
โยเกิร์ต,ผงฟู,ผงช็อกโกแลต นอกจากนี้ก็ยังมี ลูกเกด,ช็อกโกแลตชิพ,เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทุบ,
เม็ดข้าวโพดดิบและไส้กรอก ซึ่งเงินลงทุนครั้งแรกสำหรับอุปกรณ์และวัตถุดิบอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาท

นงคราญบอกว่า วาฟเฟิลจะอร่อยหรือไม่อยู่ที่แป้งเป็นสำคัญ ดังนั้นจึงมีวิธีการทำแป้งมาฝากกัน
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 กก.
ไข่ไก่ 5 ฟอง
เนยสดครึ่งก้อน (ละลายแล้ว)
น้ำตาลทราย 400 กรัม
นมสด 1 กระป๋อง
โยเกิร์ต 1/2 กระป๋อง
ผงฟูและเกลืออย่างละนิดหน่อยนำทุกอย่างผสมรวมกันแล้วใช้ตะกร้อตีให้เข้ากัน ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
ซึ่งสังเกตว่าแป้งเริ่มเหนียว ข้น และออกสีเหลืองแก่ ๆ ก็เป็นอันใช้ได้

แต่ถ้าเป็นแป้งวาฟเฟิลโด จะต้องใช้เครื่องตีแป้งตี เพราะต้องการที่จะให้แป้งเหนียวเป็นก้อน ซึ่งใช้เวลาตีประมาณ
90 นาที เสร็จแล้วจะต้องนำแป้งแช่ในตู้เย็นด้วย เพราะไม่ได้ใส่สารกันบูด หากเอาไว้ข้างนอกนานแป้งจะเสีย
“เหตุที่ต้องใส่โยเกิร์ตลงไปผสมด้วยนั้น เพราะว่าโยเกิร์ตช่วยทำให้แป้งนุ่มเร็วขึ้น”

สำหรับแป้งทั้งสองอย่างนี้สามารถมีลูกเล่นเพิ่มเติมได้ด้วยการทำเป็นแป้งช็อกโกแลตอีกต่างหาก
ด้วยการผสมแป้งช็อกโกแลต 20 กรัม และน้ำพอประมาณลงไปตีผสมรวมด้วย
ส่วนแป้งที่ทำวาฟเฟิลฮอทดอก ก็มีวิธีทำเหมือนกัน แต่ว่าจะต้องผสมน้ำเพิ่มลงไป โดยกะด้วยสายตาว่า
อย่าให้ข้นหรือเหลวจนเกินไปต่อไปมาเตรียมตัวทำวาฟเฟิลกันได้เลย.....

วาฟเฟิลโยเกิร์ตแบบแผ่น ต้องวอร์มเครื่องอบวาฟเฟิลแบบกลมให้ร้อนเสียก่อน
เมื่อเตาอบร้อนแล้ว ก็ค่อยตักแป้งใส่ลงไปให้เต็มช่อง ขั้นตอนนี้จะว่ายากก็ไม่ยาก จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย
ต้องใช้ความชำนาญหน่อยถึงจะทำแผ่นวาฟเฟิลได้สวย จากนั้นอาจแต่งหน้าลูกเกดหรือเม็ดข้าวโพดดิบ
ส่วนวาฟเฟิลช็อกโกแลตจะโรยหน้าด้วยเม็ดช็อกโกแลตชิพ ใช้เวลาอบประมาณ 2 นาทีก็เสร็จเรียบร้อย
ขายในราคาแผ่นละ 30 บาทวาฟเฟิลโด เป็นแผ่นวาฟเฟิลกลม ๆ โดยจะอบในเตาอบสี่เหลี่ยม
ซึ่งจะมีที่อบ 2 ช่องด้านใน ตัวแป้งวาฟเฟิลโดนั้นจะต้องแบ่งเป็นก้อน ปั้นเป็นก้อนกลมขนาด 60 กรัม
แต่ต้องปล่อยไว้สัก 30 นาที ให้แป้งฟูขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ปั้นให้ยัดน้ำตาลเทียมประมาณ 8-10
ก้อนเล็กลงไปด้วย เพื่อสร้างรสชาติความหวาน ถ้าเป็นแป้งช็อกโกแลตก็จะต้องใส่เม็ดช็อกโกแลตชิพให้ดูสวยงาม
และเมื่อเตาอบร้อนแล้วก็วางแป้งลงบนเตาข้างละ 1 ลูก อบประมาณ 2-3 นาที
เท่านี้ก็จะได้วาฟเฟิลโดที่ขายในราคาแผ่นละ 15 บาท

วาฟเฟิลฮอทดอก เตรียมเตาอบสำหรับทำวาฟเฟิลฮอทดอก มีลักษณะเป็นหลุมยาว ๆ 1 เตามี 10 หลุม
เมื่อวอร์มเครื่องร้อนแล้วก็ค่อย ๆ ตักแป้งใส่ลงไปจนเต็มหลุม แล้วใส่ไส้กรอกที่เสียบไม้ไว้แล้วบิดใส่ลงไปในแป้ง
ปิดฝาเครื่องอบลงมา อบประมาณ 4-5 นาที ก็เรียบร้อย ขายในราคาไม้ละ 15 บาท

อีกจุดสำคัญที่ห้ามลืมคือ ก่อนที่จะอบจะต้องทาเตาด้วยไข่ไก่ผสมน้ำมันพืชเสียก่อน
เพื่อมิให้แป้งติดเตา และทุกครั้งที่อบขนมใหม่ก็จะต้องทาใหม่ทุกครั้ง...

ไม่มีร้านประจำ ตระเวนขายตามงานแสดงสินค้า แต่ “วาฟเฟิลโยเกิร์ต”ก็ทำให้นงคราญมีรายได้น่าชื่นใจ

สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล /ลัดดาวรรณ์ อนันเต่า :รายงาน
ที่มา: bloggang ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง

รูปการแต่งบ้านและสวน













เค้กมะพร้าวอ่อน

                                        
                                    เค้กมะพร้าวอ่อน







สำหรับ 2 ปอนด์
เวลาในการทำ 1 ชั่วโมง 30 นาที


วัตถุดิบ
1. แป้งเค้ก 90 กรัม
2. ผงฟู 1/2 ช้อนชา
3. น้ำตาลทราย 75 กรัม
4. ไข่ไก่ 3 ฟอง
5. โอวาเลท 20 กรัม
6. กลิ่นวนิลาบัตเตอร์ 1 ช้อนชา
7. หัวกะทิ 80 มิลลิลิตร
8. วิปปิ้งครีม 250 มิลลิลิตร
9. หัวกะทิ 50 มิลลิลิตร
10. มะพร้าวอ่อน 350 กรัม


อุปกรณ์
1.พิมพ์ 2 ปอนด์
2. ตะแกรง
3. เครื่องตีไข่
4. ชามผสม
5. ที่ร่อนแป้ง
6. พายยาง

วิธีทำ

1.     ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู เกลือ น้ำตาลป่นเข้าด้วยกัน พักไว้ในชามอีกใบผสมไข่แดง น้ำมันพืช กะทิ น้ำมะพร้าว ตีให้พอเข้ากัน
2.     เทส่วนผสมที่ ลงในส่วนผสมที่ คนให้ส่วนผสมเข้ากันดี พักไว้ใน ชามที่สะอาดตีไข่ขาวกะครีมออฟทาร์ทาร์ให้เป็นฟอง จากนั้นค่อยๆทะยอยใส่น้ำตาลป่นลงไป ตีไข่ขาวให้ขึ้นฟูตั้งยอดอ่อน
3.     แบ่งส่วนผสมไข่ขาวออกเป็น ส่วน นำไข่ขาวลงไปตะล่อมกะส่วนผสม 1+2 อย่างเบามือทีละส่วน ทำแบบนี้จนหมดไข่ขาว
4.     เท ส่วนผสมที่ได้ลงในพิมพ์ขนาด ปอนด์ กระแทกพิมพ์ ครั้ง นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 C อบด้วยไฟล่าง นาน 15-20 นาที
5.     พอสุกแล้วนำออกจากเตา กระแทกพิมพ์แรงๆ ครั้งๆ นำเค้กออกจากพิมพ์ พักไว้ให้เย็น

ส่วนผสมไส้ครีมมะพร้าวอ่อน

1.     นม ข้นจืด 62.5 กรัม
2.     กะทิ 62.5 กรัม
3.     น้ำมะพร้าวอ่อน 75 กรัม
4.     น้ำตาล 25 กรัม
5.      แป้งกวนไส้ 15 กรัม
6.     เกลือ 1/8 ช้อนชา
7.     เนยสด 15 กรัม
8.     เนื้อมะพร้าวอ่อน ลูก

o    นำ นมข้นจืด กะทิ น้ำมะพร้าวอ่อน น้ำตาล แป้งกวนไส้ เกลือ ใส่ชาม คนให้เข้ากัน
o    นำขึ้นตั้งไฟแบบ double-boiling คนส่วนผสมไปในทางเดียวกันตลอดเวลา จนกระทั่งแป้งสุก ส่วนผสมข้น ยกลงจากเตา
o    ใส่เนยกับเนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปคนให้เข้ากัน พักไว้ให้ส่วนผสมเย็นแล้วจึงนำไปทาบนเนื้อเค้ก

Carly Rose Sonenclar

Carly Rose Sonenclar






Carly Rose Sonenclar (born April 20, 1999) is an American singer and teen actress. In December 2012, she became the runner-up on the second season of the American version of the The X Factor.
She began her acting career in 2003, soon making her Broadway debut in Les Miserables as Young Cosette. Among other stage roles, she originated the role of Chloe (Alice's daughter) in the 2011 musical Wonderland on Broadway. She played a regular character in season 3 of the The Electric Company television series and has sung the U.S. National Anthem for major sporting events.

Early life

Sonenclar was born in New York City and resides in Mamaroneck, New York. Sonenclar is Jewish. She began singing at age two, imitating several of the performers on the early years of American Idol. She took numerous singing, dancing, piano and acting classes, and one of her teachers put her in touch with a New York City talent agency, which signed her. She enjoys softball and has an older brother, Russell, who attends the University of Delaware. She takes piano and enjoys composing songs.

Acting career

Sonenclar began her professional career in 2006 in a stage adaptation of The Night of the Hunter, at the New York Musical Theatre Festival, in which she played the lead role of Pearl. In that same year, she made her Broadway debut in Les Miserables as Young Cosette. In 2009, she appeared in the national tour of Little House on the Prairie, the Musical, starring Melissa Gilbert, originating the principal role of Carrie. Sonenclar made her television debut as Gilda Flip, the newest Prankster in season three of The Electric Company, produced by Sesame Workshop and airing on PBS.
In 2011, Sonenclar originated the role of Chloe (Alice's daughter) in the short-lived musical Wonderland on Broadway and the earlier Tampa workshop. In this role, she garnered good reviews, including one by The New York Times theater critic Charles Isherwood, who described Sonenclar as a good actress and an "almost preternaturally skilled singer"[—and she drew comparisons with Sutton Foster. She is a featured soloist on the cast CD produced by Sony Masterworks and was named the 2011 Best Young Performer by broadwayworld.com. Sonenclar originated the lead role of Parsley in The Big Bank, a musical debuted at the New York Musical Theater Festival in October 2011.
Sonenclar has appeared in two feature movies, The Nanny Diaries playing as "child of nanny"  and a small role in Sisterhood of the Traveling Pants 2. She has made numerous TV guest appearances, including ABC News, WPIX Morning News and NBC News.

Singing career

2012: The X Factor

In 2012, Sonenclar auditioned for the second season of The X Factor USA with the song "Feeling Good" by Cy Grant (famously covered by Nina Simone among others). Sonenclar received a standing ovation from all four judges (L.A. Reid commented "You may be 13, but your soul is old!"; Simon Cowell awarded her "4,833 yes-es"), and she advanced to the next round. After her successful initial audition, she advanced through the first day of X Factor's "bootcamp," where she sang "Pumped Up Kicks with Beatrice Miller". Of the 120 contestants who auditioned at bootcamp that day, she was among the sixty or so asked to continue on. At the end of bootcamp, she was chosen to be one of the six contestants in the "teens" category who were invited to perform at the "judges' houses" stage of the competition. She performed the song "Brokenhearted" for the "teens" category mentor, Britney Spears, and Spears's guest judge will.i.am. Both Spears and will.i.am responded positively to her performance; will.i.am remarked appreciatively that she was "possessed." Sonenclar next advanced into the Top 16 round, where she performed "Good Feeling", then the Top 13 round, where she performed "It Will Rain". When Sonenclar reached the Top 12 round—where she performed "My Heart Will Go On"—it was revealed that she was the second-most-voted for person in the competition so far, behind only Tate Stevens, a distinction she achieved again after advancing to the Top 10 round.
On November 21, she performed the song "Over the Rainbow", which she received a standing ovation from all four judges, sending her into the Top 8 round. It was revealed that she had been the #1 most-voted-for contestant in the competition that night. On November 28, she performed "Rolling in the Deep", sending her into the Top 6 round, and was revealed to have again been the #1 most-voted-for contestant in the competition. She later advanced to the Finale round, in which she performed "Feeling Good" (again), "How Do I Live" (with LeAnn Rimes), and "Hallelujah". On December 20, 2012, it was announced that she had finished the competition in second place behind Tate Stevens.






แนะนำตัวเอง

ชื่อ : น.ส. หทัยพร   มณีทอง 
ชื่อเล่น : เอมี่ 
เลขที่ : 50 
เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ : 4.2 
โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม